เนื้อหาจากหนังสือ เรื่อง "การบริหารงานสไตล์พระเยซู"[4]
ความผิดพลาดที่ร้ายแรงอย่างหนึ่งที่บริษัทของเราเคยทำคือ ไม่พยายามอย่างเต็มที่ในการค้นหาพนักงานที่มีความรู้ความสามารถบรรจุลงในจุดที่สำคัญ แต่ถ้าเราดูแบบอย่างของพระเยซู เราก็คงไม่ทำผิดพลาดเช่นนี้
แม้ว่าพระองค์จะมีผู้ติดตามที่ยิ่งใหญ่แล้วถึงสิบสองคน แต่กระนั้นพระองค์ก็ยังเห็นถึงความจำเป็นที่จะเพิ่มคนที่เก่งๆ เข้าไปในองค์กรของพระองค์อีก อาจกล่าวได้ว่าพระองค์ทรงทำทุกอย่างเพื่อจะได้ชายคนนี้เข้ามาอยู่กับพระองค์
ขณะที่เซาโลแห่งทาร์ซัสกำลังเดินทางไปยังเมืองดามัสกัส พระเยซูทรงกระทำให้ชายผู้นี้ล้มลงและทำให้เขาตาบอดด้วยแสงเจิดจ้าจากท้องฟ้า พระเยซูทรงสำแดงพระองค์และบอกเซาโล (ซึ่งต่อมากลายเป็นอัครสาวกผู้ยิ่งใหญ่ที่มีนามว่าเปาโลหรือพอล) ว่าเขาจะต้องทำอะไร นี่ช่างเป็นการเกณฑ์คนเข้ามาทำงานอย่างอุกอาจที่สุด
ผมกล้าพูดได้ว่า การที่พระเยซูทรงนำเปาโลมาร่วมงานนั้นเป็นการจ้างงานที่ประสบความสำเร็จที่สุดเท่าที่องค์กรของมนุษย์เคยทำ เปาโลกลายเป็นผู้บริหารงานที่นำคนมากมายมาสู่องค์กร เป็นผู้ระดมทุนสำหรับองค์กร เป็นผู้เปิดสาขาใหม่ๆ และที่สำคัญที่สุดคือเป็นคนที่ซื่อสัตย์และเป็นผู้เผยแพร่เรื่องราวขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เขาบอกเล่าเรื่องราวของพระเยซูได้ดียิ่งกว่าใครๆ บ่อยกว่าใครๆ และประสบความสำเร็จมากกว่าใครๆ และเขายังคงเล่าเรื่องราวดังกล่าวผ่านทางจดหมายฉบับต่างๆ ของเขาที่ยังหลงเหลืออยู่
เปาโลคือสุดยอดของ “เจ้าหน้าที่คนสำคัญ และการดึงเขามาร่วมงานนั้น ได้ให้บทเรียนมากมายสำหรับเราผู้ซึ่งกำลังพยายามสร้างองค์กรในทุกวันนี้
ประการแรก เมื่อจะต้องเติมเต็มในจุดสำคัญและคุณได้พบคนที่เหมาะสมสำหรับงานนั้นแล้ว จงทำทุกอย่างเพื่อจะได้เขาหรือเธอมาทำงานกับคุณ และอย่าปล่อยให้อัตราเงินเดือน กฏระเบียบหรือธรรมเนียมมาเป็นอุปสรรค ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม อย่าถามตัวเองว่า “จะทำอย่างไรที่จะได้เขามาโดยจ่ายเงินเดือนน้อยที่สุด” ในทางตรงกันข้าม จงถามตัวเองว่า “ผมจะเสนอเงินเดือนให้เขาได้มากที่สุดเท่าไรเพื่อแสดงให้เขาเห็นว่าผมต้องการเขามากเพียงไร” คุณไม่อาจใช้แสงสว่างจากท้องฟ้าเพื่อทำให้เขาตาบอดเหมือนที่พระเยซูทำได้ แต่คุณควรจะสะกดความคิดของเขาด้วยข้อเสนอของคุณ หากตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่สำคัญ และคนๆ นี้คือคนที่เหมาะสม จงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะได้เขาหรือเธอมาทำงานกับคุณ
หากตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่สำคัญและคนๆ นี้คือคนที่เหมาะสม จงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะได้เขาหรือเธอมาทำงานกับคุณ
ประการที่สอง อย่ามองข้ามคนสำคัญคนนี้เพียงเพราะกลัวว่าพนักงานเดิมจะเกิดความรู้สึก บางครั้งบริษัทของเราทำผิดพลาดที่ไม่กล้ารับผู้บริหารระดับสูง เพราะเรารู้ว่าเราจะต้องให้เขาอยู่ในระดับที่เหนือกว่าเจ้าหน้าที่ปัจจุบัน และเรากลัวว่าเขาจะไม่พอใจ นี่เป็นความคิดที่ใช้ไม่ได้ การตัดสินใจของบริษัทไครเลอร์ในการนำ ลี ลาคอกคา มาทำงานกับบริษัท ไม่เพียงเป็นผลดีต่อบริษัทเท่านั้น แต่ยังเป็นผลดีต่อผู้บริหารที่จะสืบทอดงานต่อไปด้วย เขาได้ปกป้องไครเลอร์และทำให้ทุกคนที่เข้าร่วมงานกับบริษัทประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น
สาวกรุ่นแรกทั้งหมดของพระเยซูโดยเฉพาะเปโตร ยากอบและยอห์น (ซึ่งอยู่กับพระเยซูตั้งแต่เริ่มแรกทั้งสามคนเคยแสดงความกังวลต่อสถานภาพของตนเอง) คงจะรู้สึกไม่พอใจทั้งวิธีการเข้ามาทำงานของเปาโลและสภานภาพของเปาโลในองค์กร สาวกรุ่นแรกเหล่านี้ใช้เวลากับพระเยซูถึงสามปี เดินทางไปตามถนนที่เต็มไปด้วยฝุ่นของปาเลสไตน์ นอนในที่ที่พอจะหาได้ และผ่านความทุกข์ทรมานรวมทั้งการถูกจับ การถูกทรมานและการตรึงกางเขน พวกเขาน่าจะพูดว่า “ไม่เคยมีใครมาหาเราโดยบอกว่าได้เห็นแสงจากท้องฟ้า แล้วเปาโลเป็นใครกันเล่า”
แต่พวกเขาไม่ได้ทำเช่นนั้น บางทีอาจจะเป็นเพราะการทรงเรียกของพระเยซูที่ว่า “จงตามเรามา” ก็เป็นที่ประทับใจพวกเขาแล้วและมีคุณค่าไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการได้เห็นแสงสว่างจากท้องฟ้า (นี่เป็นอีกหลักการบริหารหนึ่งที่เราได้เรียนจากพระเยซู นั่นคือเปลี่ยนแปลงวิธีการเกณฑ์คนเข้ามาทำงานให้เหมาะสมกับแต่ละคนที่คุณสนใจ คำพูดง่ายๆ ว่า “จงตามเรามา” นั้นเพียงพอแล้วสำหรับเปโตรซึ่งเป็นชาวประมงผู้เรียบง่ายแห่งท้องทะเลกาลิลี แต่สำหรับคนที่มีความภาคภูมิใจ มีการศึกษาสูง และเป็นฟาริสีอย่างเปาโล การถูกทำให้ล้มลงและตาบอดด้วยแสงสว่างจากท้องฟ้า จึงกลายเป็นเรื่องจำเป็น)
หลังจากข้อสงสัยและการทดสอบ ในที่สุดเปาโลก็ค่อยๆ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร
อีกครั้งหนึ่ง เมื่อมีจุดสำคัญที่จะต้องเติมเต็ม จงทำทุกอย่างด้วยวิธีการที่สง่างาม เพื่อนำคนที่ดีที่สุดเข้ามาทำงาน
ประการที่สาม พระเยซูสอนเราไม่ให้มองข้ามคู่แข่งในการค้นหาคนที่ดีที่สุด เปาโลเป็นคนที่กระตือรือร้นที่สุด เสียงดังที่สุด น่ากลัวที่สุด และเป็นคนที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการต่อต้านองค์กรที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ของพระเยซู ที่จริงแล้วเขาคือคู่แข่งคนสำคัญของพระเยซู พระเยซูทรงนำเปาโลมาทำงานกับพระองค์และทำให้เขากลายเป็นคนสำคัญในองค์กรที่พระองค์ทรงพายามตั้งขึ้น
เมื่อคุณจ้างคนที่มีคุณภาพจากบริษัทคู่แข่ง คุณจะประสบความสำเร็จสองประการคือ ประการแรก คุณทำให้องค์กรของอคุณเข้มแข็งขึ้น และประการที่สอง คุณทำให้คู่แข่งอ่อนกำลังลง เมื่อเปาโลเข้ามาอยู่ในคริสจักร การข่มขู่คริสตจักรก็หมดไป พระเยซูทรงเป็นนักกลยุทธ์ผู้ชาญฉลาด จงเรียนจากพระองค์