วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558

ความพยายามทำให้คนธรรมดากลายเป็นคนพิเศษ

เนื้อหาจากหนังสือเรื่อง "ช้า ให้ ชนะ" เขียนโดย "คาซุโอะ อินาโมริ" [7]

ความพยายามทำให้คนธรรมดากลายเป็นคนพิเศษ

มุระกะมิ คะซุโอะ ศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยทสึคุบะและผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุศาสตร์ ได้อธิบายถึงพลัง "เหนือมนุษย์" ที่เรางัดออกมาใช้ในสถานการณืคับขันว่า มันเป็นพลังที่ซ่อนอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคน แต่ยีนที่ควบคุมถูกปิดสวิตซ์ไว้และหลับใหลอยู่ อย่างไรก็ตามเมื่อเปิดสวิตซ์ขึ้นมา เราจะสามารถนำพลังดังกล่าวมาใช้ได้แม้แต่ในสถานการณ์ปกติ เขายังบอกด้วยว่า การคิดบวกและทัศนคติที่ดีจะช่วยปลุกพลังแฝงที่หลับใหลอยู่ภายในตัวเราได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ งานวิจัยทางพันธุศาสตร์ยังสนับสนุนแนวคิดที่ว่า ทัศนคติมีพลังมหาศาลในการเพิ่มพูนศักยภาพของมนุษย์

            แล้วศักยภาพของเราคืออะไรล่ะ หากมองในแง่พันธุศาสตร์ ทุกสิ่งที่เราวาดฝันและต้องการล้วนเป็นไปได้ทั้งสิ้น เราทุกคนเกิดมาพร้อมกับความสามารถ “ในการทำให้ความปรารถนาเป็นจริง” แต่เราต้อง “พยายาม” ไปให้ถึงเป้าหมายด้วย ไม่ใช่แค่ตั้งเป้าหมายสูงๆ เพียงอย่างเดียว

            ตอนที่เคียวเซร่ายังเป็นแค่โรงงานเล็กๆ ที่มีคนงานไม่ถึงร้อยคน ผมประกาศว่าในอนาคตบริษัทจะกลายเป็นเบอร์หนึ่งของโลก ผมไม่คิดว่ามันเป็นความฝันที่เลื่อนลอย แต่เป็นความปรารถนาอันแรงกล้าที่ต้องทำให้สำเร็จ ถึงอย่างนั้นไม่ว่าจะแหงนหน้ามองสูงแค่ไหน เท้าของเราก็ยังต้องติดดินอยู่เสมอ พูดง่ายๆ ก็คือ จงตั้งความหวังและความฝันให้สูงเข้าไว้ ทุ่มเทความพยายามกับงานที่ทำอยู่ทุกวัน แก้ปัญหาไปทีละอย่าง และก้าวไปให้ไกลกว่าจุดที่ยืนอยู่เมื่อวาน

            หลายครั้งผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเคียวเซร่าจะขึ้นสู่จุดสูงสุดได้จริงหรือ ผมรู้สึกถึงช่องว่างระหว่างความฝันกับความจริงที่ห่างไกลกันเหลือเกิน อย่างไรก็ตาม ชีวิตคือ “ผลรวมของสิ่งที่เราทำได้ในแต่ละวัน” โดยเวลาแต่ละวินาทีจะรวมกันเป็นหนึ่งวัน แต่ละวันจะรวมกันเป็นสัปดาห์ เป็นเดือน เป็นปี พอรู้ตัวอีกทีเราก็มาถึงจุดสูงสุดที่เคยมองว่าไกลเกินเอื้อมแล้ว นี่ล่ะครับคือชีวิต

            ต่อให้เราเตรียมตัวต้อนรับอนาคตมากแค่ไหน อนาคตที่ว่าก็คงไม่มาถึงถ้าเราไม่ใช้ชีวิตในวันนี้เสียก่อน ไม่มีทางลัดใดนำเราไปสู่จุดหมายที่วาดภาพไว้ในหัวได้ เราต้องเดินไปบนเส้นทางอันยาวไกลทีละก้าวฉันใด เราก็ต้องมุ่งหน้าไปสู่ฝันอันยิ่งใหญ่ทีละน้อยฉันนั้น หากเราใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างเต็มที่ แทนที่จะปล่อยเวลาให้สูญเปล่า วันพรุ่งนี้ก็จะมาถึงในที่สุด และถ้าพยายามทำวันต่อๆ ไปให้ดี เราก็จะเริ่มมองเห็นสัปดาห์ต่อไปใกล้เข้ามา และเมื่อใช้ชีวิตสัปดห์นั้นให้เต็มที่ เราจะเริ่มมองเห็นเดือนต่อไป ถ้าเราทุ่มเทพลังทั้งหมดที่มีให้กับทุกชั่วขณะของชีวิตแทนที่จะเอาแต่ก้าวพรวดๆ ไปข้างหน้า อนาคตก็จะปรากฏให้เห็นโดยที่เราไม่ต้องกังวลว่าเมื่อไหร่มันจะมาถึงเสียที


            ผมทำแบบนี้กับทุกเรื่องในชีวิต ผมจะก้าวช้าๆ อย่างมั่นคงให้เหมือนเต่าที่เอาชนะกระต่ายได้ในที่สุด การทุ่มเทอย่างต่อเนื่องให้กับสิ่งที่ทำคือปัจจัยที่ผลักดันเคียวเซร่าให้เติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ และเปลี่ยนวิศวกรตัวเล็กๆ ให้กลายเป็นนักธุรกิจที่ผู้คนนับหน้าถือตา เมื่อเทียบกันแล้ว แทนที่จะเสียเวลาไปกับการกังวลเรื่องวันพรุ่งนี้หรือคิดแต่จะคาดเดาอนาคต คุณควรทุ่มเทให้กับทุกวินาทีของชีวิต นั่นคือวิธีที่ดีที่สุดในการทำความฝันให้เป็นจริง
.
.
.
ติดตามอ่านเรื่องราวดีๆได้ที่นี่

แด่ทุกความพยายามและความใฝ่ฝัน
StorySnap

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น