เนื้อหาจากหนังสือเรื่อง "ช้า ให้ ชนะ" เขียนโดย "คาซุโอะ อินาโมริ" [7]
ความพยายามทำให้คนธรรมดากลายเป็นคนพิเศษ
มุระกะมิ คะซุโอะ
ศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยทสึคุบะและผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุศาสตร์
ได้อธิบายถึงพลัง "เหนือมนุษย์" ที่เรางัดออกมาใช้ในสถานการณืคับขันว่า
มันเป็นพลังที่ซ่อนอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคน
แต่ยีนที่ควบคุมถูกปิดสวิตซ์ไว้และหลับใหลอยู่ อย่างไรก็ตามเมื่อเปิดสวิตซ์ขึ้นมา
เราจะสามารถนำพลังดังกล่าวมาใช้ได้แม้แต่ในสถานการณ์ปกติ เขายังบอกด้วยว่า
การคิดบวกและทัศนคติที่ดีจะช่วยปลุกพลังแฝงที่หลับใหลอยู่ภายในตัวเราได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ งานวิจัยทางพันธุศาสตร์ยังสนับสนุนแนวคิดที่ว่า
ทัศนคติมีพลังมหาศาลในการเพิ่มพูนศักยภาพของมนุษย์
แล้วศักยภาพของเราคืออะไรล่ะ
หากมองในแง่พันธุศาสตร์ ทุกสิ่งที่เราวาดฝันและต้องการล้วนเป็นไปได้ทั้งสิ้น
เราทุกคนเกิดมาพร้อมกับความสามารถ “ในการทำให้ความปรารถนาเป็นจริง” แต่เราต้อง
“พยายาม” ไปให้ถึงเป้าหมายด้วย ไม่ใช่แค่ตั้งเป้าหมายสูงๆ เพียงอย่างเดียว
ตอนที่เคียวเซร่ายังเป็นแค่โรงงานเล็กๆ
ที่มีคนงานไม่ถึงร้อยคน ผมประกาศว่าในอนาคตบริษัทจะกลายเป็นเบอร์หนึ่งของโลก
ผมไม่คิดว่ามันเป็นความฝันที่เลื่อนลอย
แต่เป็นความปรารถนาอันแรงกล้าที่ต้องทำให้สำเร็จ
ถึงอย่างนั้นไม่ว่าจะแหงนหน้ามองสูงแค่ไหน เท้าของเราก็ยังต้องติดดินอยู่เสมอ
พูดง่ายๆ ก็คือ จงตั้งความหวังและความฝันให้สูงเข้าไว้
ทุ่มเทความพยายามกับงานที่ทำอยู่ทุกวัน แก้ปัญหาไปทีละอย่าง
และก้าวไปให้ไกลกว่าจุดที่ยืนอยู่เมื่อวาน
หลายครั้งผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเคียวเซร่าจะขึ้นสู่จุดสูงสุดได้จริงหรือ
ผมรู้สึกถึงช่องว่างระหว่างความฝันกับความจริงที่ห่างไกลกันเหลือเกิน อย่างไรก็ตาม
ชีวิตคือ “ผลรวมของสิ่งที่เราทำได้ในแต่ละวัน”
โดยเวลาแต่ละวินาทีจะรวมกันเป็นหนึ่งวัน แต่ละวันจะรวมกันเป็นสัปดาห์ เป็นเดือน
เป็นปี พอรู้ตัวอีกทีเราก็มาถึงจุดสูงสุดที่เคยมองว่าไกลเกินเอื้อมแล้ว
นี่ล่ะครับคือชีวิต
ต่อให้เราเตรียมตัวต้อนรับอนาคตมากแค่ไหน
อนาคตที่ว่าก็คงไม่มาถึงถ้าเราไม่ใช้ชีวิตในวันนี้เสียก่อน
ไม่มีทางลัดใดนำเราไปสู่จุดหมายที่วาดภาพไว้ในหัวได้
เราต้องเดินไปบนเส้นทางอันยาวไกลทีละก้าวฉันใด
เราก็ต้องมุ่งหน้าไปสู่ฝันอันยิ่งใหญ่ทีละน้อยฉันนั้น
หากเราใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างเต็มที่ แทนที่จะปล่อยเวลาให้สูญเปล่า
วันพรุ่งนี้ก็จะมาถึงในที่สุด และถ้าพยายามทำวันต่อๆ ไปให้ดี
เราก็จะเริ่มมองเห็นสัปดาห์ต่อไปใกล้เข้ามา และเมื่อใช้ชีวิตสัปดห์นั้นให้เต็มที่
เราจะเริ่มมองเห็นเดือนต่อไป
ถ้าเราทุ่มเทพลังทั้งหมดที่มีให้กับทุกชั่วขณะของชีวิตแทนที่จะเอาแต่ก้าวพรวดๆ
ไปข้างหน้า
อนาคตก็จะปรากฏให้เห็นโดยที่เราไม่ต้องกังวลว่าเมื่อไหร่มันจะมาถึงเสียที
ผมทำแบบนี้กับทุกเรื่องในชีวิต
ผมจะก้าวช้าๆ อย่างมั่นคงให้เหมือนเต่าที่เอาชนะกระต่ายได้ในที่สุด
การทุ่มเทอย่างต่อเนื่องให้กับสิ่งที่ทำคือปัจจัยที่ผลักดันเคียวเซร่าให้เติบโตมาจนถึงทุกวันนี้
และเปลี่ยนวิศวกรตัวเล็กๆ ให้กลายเป็นนักธุรกิจที่ผู้คนนับหน้าถือตา
เมื่อเทียบกันแล้ว
แทนที่จะเสียเวลาไปกับการกังวลเรื่องวันพรุ่งนี้หรือคิดแต่จะคาดเดาอนาคต
คุณควรทุ่มเทให้กับทุกวินาทีของชีวิต นั่นคือวิธีที่ดีที่สุดในการทำความฝันให้เป็นจริง
.
.
.
ติดตามอ่านเรื่องราวดีๆได้ที่นี่
แด่ทุกความพยายามและความใฝ่ฝัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น