เนื้อหาจากหนังสือเรื่อง "ช้า ให้ ชนะ" เขียนโดย "คาซุโอะ อินาโมริ" [11]
ฝันให้ไกลแล้วไปให้ถึง
ถึงตอนนี้เราคงเข้าใจพลังของความปรารถนาและวิธีนำมันมาใช้แล้ว
ถ้าคุณอยากนำพลังนี้มาใช้เพื่อสร้างความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ทั้งในชีวิตและการทำงาน
คุณก็ต้องฝันให้ไกลเข้าไว้ด้วยความทะเยอะทะยาน
บางคนอาจแย้งว่าแค่ใช้ชีวิตให้ผ่านไปแต่ละวันก็ยากพอแล้ว
จะให้มานั่งฝันหรือตั้งความหวังอะไรได้อีก
แต่อันที่จริงแล้วคนที่เข้มแข็งมากพอจาสามารถทำให้ชีวิตเป็นแบบที่ตัวเองต้องการได้จะมีความฝันที่ทะเยอทะยาน
คนเหล่านี้มักอยากได้ในสิ่งที่เอื้อมไม่ถึง ซึ่งตัวผมเองก็เป็นแบบนั้น
ความฝันและเป้าหมายอันยิ่งใหญ่เป็นแรงผลักดันที่พาผมมาไกลได้ขนาดนี้
อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่าตอนก่อตั้งเคียวเซร่าผมตั้งใจจะสร้างบริษัทที่เป็นผู้ผลิตเซรามิกชั้นนำของโลก
และผมก็เน้นย้ำความฝันนั้นให้พนักงานฟังซ้ำ ๆ
ผมไม่มีกลยุทธ์ที่จับต้องได้หรือแผนการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้
เรียกได้ว่าผมไม่อยู่บนโลกแห่งความจริงเลยด้วยซ้ำ
แต่ทุกครั้งที่มีโอกาสผมจะเล่าความฝันนั้นให้พนักงานฟัง
เพื่อให้ความฝันของผมกลายเป็นความปรารถนาของพนักงานทุกคน
และในที่สุดมันก็กลายเป็นจริง
ไม่มีความฝันใดจะเป็นจริงได้ถ้าเราไม่เคยวาดฝัน
มีแต่สิ่งที่เราอยากได้ให้เป็นจริงเท่านั้นที่เกิดขึ้นได้
ในที่สุดเคียวเซร่าก็กลายเป็นบริษัทชั้นนำในวงการ
เพราะเรามีความปรารถนาที่รุนแรงจนซึมซาบเข้าไปในจิตใต้สำนึก
ทั้งยังร่วมมือกันจนมันกลายเป็นความจริง
แม้ว่าความฝันที่ยิ่งใหญต้องใช้เวลานานกว่าจะไปถึง
แต่ถ้าเรานึกภาพความสำเร็จไว้ในหัวและจินตนาการถึงขั้นตอนสู่เป้าหมายให้ชัดเจน
เราก็จะเริ่มมองเห็นวิธีไปถึงจุดนั้น เราจะค้นพบวิธีใหม่ๆ
มากมายที่ช่วยให้ความฝันกลายเป็นจริง แม้ว่าทุกวันจะเจอแต่เรื่องซ้ำซากจำเจก็ตาม
หลายครั้งเราก็ได้แรงบันดาลใจใหม่ๆ
โดยไม่คาดฝันในสถานการณ์ที่ดูธรรมดา เช่น ระหว่างเดินไปตามถนน พักผ่อนจิบน้ำชา
หรือพูดคุยกับเพื่อน ถึงแม้แต่ละคนจะพบเจอสิ่งเดียวกัน
แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมองเห็นคำใบ้ที่ชีวิตหยิบยื่นให้
นี่คือสิ่งที่สร้างความแตกต่างระหว่างนักคิดผู้ยิ่งใหญ่กับคนธรรมดา มีคนมากมายที่เคยเห็นผลแอปเปิลตกจากต้นเหมือนนิวตัน
แต่เขากลับเป็นคนเดียวที่ค้นพบกฏแรงดึงดูดของโลก
เขาประสบความสำเร็จก็เพราะความปรารถนาอันแรงกล้าในการค้นหาคำตอบ
ผมบอกไปแล้วว่าถ้ารักษาเปลวไฟแห่งความปรารถให้โชติช่วยอยู่เสมอ
เราจะได้รับแรงบันดาลใจจากสวรรค์ ซึ่งเป็นที่มาของความสำเร็จอันน่าทึ่งทั้งหลาย
ดังนั้น ไม่ว่าเราจะอายุเท่าไหร่ก็ควรหมั่นพูดถึงความฝันของตัวเอง
และมองไปข้างหน้าด้วยความหวัง เพราะหากปราศจากความฝันแล้ว
เราจะไม่สามารถสร้างสรรค์ ประสบความสำเร็จ หรือเติบโตขึ้นอย่างที่มนุษย์ควรจะเป็น
เมื่อเราพยายามทำความฝันให้กลายเป็นจริง และไม่ลดละความพยายามในการสร้างสิ่งใหม่
ตัวตนของเราก็จะถูกขัดเกลาให้ดีขึ้น ด้วยเหตุนี้
ความฝันและความปรารถนาจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดสำหรับชีวิต
.
.
.
ติดตามอ่านเรื่องราวดีๆได้ที่นี่
แด่ทุกความใฝ่ฝันและแรงบันดาลใจ
StorySnap