วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

"ฝึกฝนการประชาสัมพันธ์ที่ดี"

เนื้อหาจากหนังสือ เรื่อง "การบริหารงานสไตล์พระเยซู"[14]

โดนอล เดลล์ เพื่อนเก่าแก่และหุ้นส่วนทางธุรกิจของผมเป็นคนที่สร้างคุณประโยชน์อย่างมากให้กับ โรเบิร์ต เอ เคเนดี้ ในช่วงรณรงค์หาเสียงเพื่อรับเลือกเป็นประธานาธิบดี และจบลงด้วยการถูกลอบสังหาร โดนอล ได้สอนผมไว้มากเกี่ยวกับสิ่งดีๆ ที่ผู้เตรียมการล่วงหน้าทำเพื่อคนที่เขาจะทำงานด้วย ผู้เตรียมการล่วงหน้าที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดและเป็นตัวอย่างที่ดีของเรื่องนี้ก็คือยอห์นแบ๊บติสต์

ยอห์นประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะเขารู้ถึงบทบาทของเขา คำกล่าวของเขาที่ว่า “พระเยซูทรงต้องยิ่งใหญ่ขึ้น แต่ข้าพเจ้าต้องด้อยลง (ยอห์น 3:30) ควรจะเป็นคำขวัญสำหรับนักประชาสัมพันธ์ทุกคน เพราะหลายคนอาจจะเริ่มรู้สึกว่าตนเองนั้นเป็นคนสำคัญ ทั้งๆ ที่คนที่ควรจะเป็นคนสำคัญ ทั้งๆ ที่คนที่ควรจะเป็นคนสำคัญคือเจ้าของหรือผู้บริหารขององค์กรนั้น

ยอห์นยังรู้จักเลือกใช้ถ้อยคำอย่างยอดเยี่ยม เขามีคำพูดที่ยิ่งใหญ่และลึกซึ้งหลายต่อหลายตอนในพระคัมภีร์ ดังนั้นจงมีคำพูดคำคมเพื่อเล่าเรื่องราวบริษัทของคุณ

ยิ่งกว่านั้น จังหวะเวลาของยอห์นยังยอดเยี่ยมด้วย เขาอยู่ถูกที่ถูกเวลา นี่คือคุณสมบัติของนักประชาสัมพันธ์มืออาชีพ ถ้าคนๆ นั้นสายอยู่เสมอ พลาดเส้นตาย ไม่เข้าใจเรื่องช่วงเวลาและความเกี่ยวกันของเขากับข่าว และไม่สามารถฉวยโอกาสได้ เขาก็ไม่ใช่คนที่จะทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์และเผยแพร่

ยอห์นได้แสดงให้เห็นว่าการประชาสัมพันธ์ที่ดี เข้มข้น และแท้จริงเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและเป็นการกระทำที่น่านับถือ ในสมัยของเรา การประชาสัมพันธ์อาจถูกมองไปในทางลบโดยคนที่คิดว่ามันเป็นเรื่องพื้นๆ  และไม่สลักสำคัญอะไร แต่ดังที่ยอห์นแบ๊พติสต์ทำเพื่อพระเยซู และคุณก็ควรจะคัดเลือกคนแบบนี้มาทำงานกับคุณ การประชาสัมพันธ์เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก เมื่อคุณทำอย่างตรงไปตรงมา มันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

คุณจำเป็นต้องเล่าเรื่องราวของคุณ บริษัทของคุณก็ต้องเล่าเรื่องราวของตนเอง นั่นคือ เรื่องราวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการจงทำอย่างดีที่สุด จงคัดเลือกใครสักคนที่จะเป็นตัวแทนของคุณต่อสาธารณชนอย่างรอบคอบ

ยอห์นแบ๊บติสต์เป็นนักประชาสัมพันธ์ที่ได้รับการคัดเลือกมาอย่างไม่ต้องสงสัย เขาเกิดมาเพื่อบทบาทนี้โดยเฉพาะ คุณและบริษัทของคุณควรจะใส่ใจเป็นพิเศษในการคัดเลือกคนที่จะมาเล่าเรื่องราวต่างๆ ของคุณ กำหนดมาตรฐานที่สูงส่งให้พวกเขา การเป็นที่ไว้วางใจได้คือข้อกำหนดข้อแรกของนักประชาสัมพันธ์ ให้คนของคุณบอกเล่าความจริง และเล่ามันอย่างดีในจังหวะเวลาที่เหมาะสม การทำเช่นนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งทั้งต่อตัวคุณและบริษัทของคุณ เขาควรจะเรียนรู้จากยอห์นแบ๊บติสต์



วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

"ทดสอบพนักงานของคุณ"

เนื้อหาจากหนังสือ เรื่อง "การบริหารงานสไตล์พระเยซู"[13]

ถ้าเจ้าหน้าที่ของคุณจะทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อคุณและบริษัท และถ้าคุณอยากจะทำอย่างดีที่สุดเพื่อพวกเขา (ซึ่งควรจะเป็นเป้าหมายหนึ่งในการบริหารงานของคุณ) คุณจำเป็นต้องให้เขาทดสอบตัวเองในภาคสนาม โดยไม่มีคุณและการกำกับดูแลของคุณ มอบหมายงานที่เฉพาะเจาะจงให้เขา และปล่อยให้เขาทำงานนั้น ถ้าคุณได้อบรมสั่งสอนเขามาอย่างดี และให้คำแนะนำที่เจาะจงและชัดเจน ช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้และเติบโต และขณะเดียวกันก็จะส่งผลดีต่อกิจการของคุณ

พระเยซูทรงทำเช่นเดียวกันนี้อย่างได้ผลเมื่อพระองค์ทรงส่งสาวกสิบสองคนออกไปทำงาน และอีกครั้งหนึ่งพระองค์ทรงส่งออกไปถึงเจ็ดสิบคน พระองค์ทรงส่งพวกเขาออกไปเป็นคู่ๆ ซึ่งเป็นเทคนิคที่เราควรนำมาพิจารณา พระองค์ทรงมอบหมายคำสั่งและสิ่งที่พวกเขาจะต้องทำอย่างเจาะจง พร้อมทั้งเตือนถึงความทุกข์ยากที่พวกเขาจะต้องเผชิญ และนี่เป็นหลักการสำคัญที่พวกเขาจะต้องเรียนรู้ อย่ามอบหมายงานแบบคลุมเครือหรือกว้างๆ แต่จงมอบหมายงานที่เฉพาะเจาะจงเท่าที่สถานการณ์จะอำนวยให้ทำได้ และเช่นเดียวกัน จงแบ่งปันความรู้ต่างๆ ที่คุณมีความยุ่งยากที่คนของคุณจะต้องพบ ส่งพวกเขาออกไปโดยมีการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ ดังที่พระเยซูทรงกระทำ

เมื่อพวกเจ็ดสิบคนกลับมาหาพระเยซู พระคัมภีร์บันทึกว่าพวกเขากลับมาด้วย “ความชื่นชมยินดี” (ลูกา 10:17) ในการฝึกฝนภาคสนามพวกเขาได้พบกับความยุ่งยาก การไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลนั้นสามารถทำงานอย่างได้ผล และพระเยซูซึ่งเป็นครูและผู้นำของเขาทรงตื่นเต้นในความสำเร็จของพวกเขา จนกระทั่งพระคัมภีร์กล่าวว่าพระองค์ทรงมีความปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง พวกสาวกไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกต่อไป พวกเขายังมีบทเรียนที่ต้องเรียนรู้และการเติบโตที่จะต้องมีขึ้น การทดสอบภาคสนาม (คือการหนีออกมาจากงานประจำ) นั้นเป็นเรื่องที่มีคุณค่ามาก