เป็นคำถามเรียบง่ายที่เกิดขึ้นหลังจากเข้าไปร้านหนังสือในตึกธุรกิจแห่งหนึ่งกลางมหานคร
และได้เห็นหน้าปกหนังสือสีขาวพื้น มีวงกลมสีเขียวมุมขวาข้างในพิมพ์อักษรว่า "หนังสือธุรกิจขายดีตลอดกาลของญี่ปุ่น"
ด้วยความที่เพิ่งอินในอารมณ์กับการไปญี่ปุ่นครั้งแรกของชีวิตและกำลังสนใจเรื่องธุรกิจ จึงเอื้อมมือหยิบพร้อมกับอ่านชื่อผู้เขียน โดยมีข้อความอธิบายต่อท้ายว่า ผู้ก่อตั้งบริษัท Kyocera และบริษัท KDDI และผู้อยู่เบื้องหลังการฟื้นคืนชีพอย่างน่าอัศจรรย์ของสายการบิน JAL
ไม่เสียเวลาในการตัดสินใจมาก เพราะด้วยประโยคหลังนี่เอง
หนังสือเล่มนี้ก็ได้มาอยู่บนโต๊ะทำงานเรียบร้อย หนังสือที่มีชื่อว่า "ช้า ให้ ชนะ" เขียนโดย "คาซุโอะ อินาโมริ" นั่นเอง
หน้าที่ของความอยากรู้ได้ทำงานโดยการค้นประวัติของชายชาวญี่ปุ่นผู้นี้ โดยแนวคิดส่วนตัวว่าถ้าคนญี่ปุ่นที่น่าเคารพยังยอมรับนับถือท่านนี้จนถึงขนาดอ่านหนังสือที่ท่านเขียนจนเป็นหนังสือขายดีตลอดกาลของชาติแล้วนั้น ก็ไม่มีเหตุผลที่จะรอช้าในการทำความรู้จักท่านให้มากขึ้นก่อนที่จะลงมือเปิดอ่านหนังสือเล่มนี้อย่างจริงจัง
การค้นประวัติบุคคลที่น่าสนใจเช่นนี้ มักทำให้เกิดความอิ่มเอมใจได้มาก เพราะทุกเรื่องราวคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงบนโลกใบนี้ เรื่องของการกู้ชีพสายการบิน JAL ก็คือหนึ่งในนั้น
เกิดอะไรขึ้นกับสายการบิน JAL ? และ ท่านคาซุโอะ ทำเรื่องน่าอัศจรรย์อย่างไร ?
คำตอบของคำถามแรกคือ สายการบิน JAL ที่ยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่นเข้าสู่สถานะการล้มละลายเมื่อปี 2010 ด้วยหนี้สินกว่า 25,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯจากการบริหารที่ไม่จริงจัง มีการแบ่งพรรคแบ่งพวกเกิดขึ้นในองค์กร พนักงานไม่มีหัวใจของการบริการ ตลอดจนการแทรกแซงเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง เหล่านี้เรียกได้ว่าองค์กรเละเทะไม่เป็นท่า
เมื่อท่านคาซุโอะ เข้ามาบริหารด้วยคำเชิญจากรัฐบาลญี่ปุ่นในวัย 78 ปี ที่ไม่เคยมีประสบการณ์การบริหารงานด้านสายการบินเลย มีเพียงหลักปรัชญาการบริหารองค์กรที่หนักแน่นและสำคัญของท่าน นั่นคือ "ความสุขของพนักงาน"
ด้วยหลักการนี้ ท่านคาซุโอะ เข้าหาพนักงานทุกระดับตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงที่จัดให้มีการเข้าอบรม ร่วมเรียนรู้เรื่องการทำงาน การเป็นผู้นำ และพัฒนาบุคลิกภาพ ไล่ลงไปจนถึงการจิบเบียร์พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและความรู้สึกต่างๆของพนักงานทั่วไป สร้างความเข้าใจ และสร้างจิตสำนึกในการรักองค์กรและการช่วยเหลือกัน และภายในเวลา 3 ปี สายการบิน JAL ก็กลับเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้อีกครั้ง แถมในปี ค.ศ. 2012 ยังได้รับรางวัลสายการบินที่ตรงเวลาที่สุดในโลกอีกด้วย
3ปี!
ปลดหนี้ 25,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ!
มีกำไร!
ได้รับรางวัล!
และกลับเข้าตลาดหลักทรัพย์!
นอกจากคำว่าผู้อยู่เบื้องหลังการฟื้นคืนชีพอย่างน่าอัศจรรย์แล้วนั้น
ก็ควรนิยามแก่หลักปรัชญาการทำงานของท่านที่สร้างความสำเร็จแบบนี้ได้ว่า
...เรียบง่าย ทว่า สง่างาม...
นี่ทำให้หนังสือที่อัดแน่นไปด้วยแนวคิดอย่างละเอียดในหลักการทำงานของท่านคาซุโอะ เล่มที่วางอยู่ข้างๆ แทบจะลอยได้
หากใครอยากไปหาซื้อมาอ่านก็อย่าได้รอช้า
แต่ถ้าใครยังไม่ว่างพอจะไปซื้อ ท่านสามารถติดตามอ่านได้จาก Storysnap.blogspot.com ในบทความต่อๆไป
"หลายคนคิดแต่เรื่องผลประโยชน์ของตน แต่โอกาสทางธุรกิจนั้นไม่ค่อยเคาะประตูของผู้ที่ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง ไม่มีลูกค้าคนไหนมาเพียงเพื่อจะทำให้เจ้าของร้านพอใจ"
-คาซุโอะ อินาโมริ-
แด่ผู้อื่น
StorySnap
Photos from
https://en.wikipedia.org/wiki/Kazuo_Inamori
http://likesuccess.com/author/kazuo-inamori